แต่สาวหมวยที่มีผิวขาวส่วนใหญ่จะนิยมสวมใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงสด ที่ดูแล้วช่วยทำให้ขับผิวขาวๆ ให้ดูขาวยิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญในช่วงเทศกาลตรุษจีนในบ้านเราชุดกี่เพ้าจะเป็นชุดที่สาวๆ นิยมนำมาสวมใส่กันเป็นอย่างมากเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ โดยเฉพาะในย่านที่มีคนจีนอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะอย่างแถวย่านเยาวราช ในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็รับรองกันได้เลยว่าเราจะเห็นสาวๆ สวมใส่ชุดกี่เพ้าออกมาอวดโฉมกันอย่างมากมาย ในช่วงเทศกาลตรุษจีนถ้าสาวๆ ไปเดินในย่านนั้นแล้วไม่ได้สวมชุดกี่เพ้าอาจจะดูไม่เข้ากับบรรยากาศกันได้เลย ในปัจจุบันชุดกี่เพ้ามีการออกแบบมาให้เหมาะกับสาวๆ ในทุกสไตล์ไม่ใช่เฉพาะสาวหมวยเท่านั้นที่จะใส่ออกมาได้ดูสวยแฟชั่นชุดกี่เพ้าสวยๆ สำหรับสาวหมวยต้อนรับตรุษจีน
แต่สาวๆ ในสไตล์อื่นอยากลองหยิบชุดกี่เพ้ามาสวมใส่ก็สามารถเลือกรูปแบบและสีสันให้เข้ากับสไตล์ของคุณ เพียงเท่านี้ก็รับรองได้เลยว่าสาวๆ ก็สามารถสวมชุดกี่เพ้าได้สวยไม่แพ้สาวหมวยกันได้แล้วค่ะ อย่างเช่นสาวหวาน ถ้าคุณไม่อยากใส่ชุดกี่เพ้าสีแดงสด คุณก็อาจจะเลือกเป็นชุดสีอื่นเช่น สีชมพู สีฟ้า หรือสาวๆ อาจจะเลือกแบบที่เป็นเสื้อคอจีนและเป็นกระโปรงทรงย้วย ซึ่งแบบนี้ขอเรียกเป็นชุดกี่เพ้าประยุกต์นะคะ ก็เป็นแบบที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งตัวสไตล์หวานๆ เป็นอย่างมาก แต่สำหรับสาวเปรี้ยวชุดกี่เพ้าทรงเข้ารูปผ่าด้านข้างแขนกุดสีแดงสดเป็นอะไรที่เหมาะมากสำหรับสาวเปรี้ยวที่สำคัญยังแอบเซ็กซี่กันอีกด้วย หรือสไตล์สาวเท่ๆ คุณอาจสวมชุดกี่เพ้ากับกางเกงสกินนี่ก็ดูเข้ากันเข้ากันเป็นอย่างมาก
ผลจากความโด่งดังเปรี้ยงปร้างของละคร “กี่เพ้า” ทางช่อง 3 ทำให้คนไทยทั้งประเทศหันมาให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา และวิวัฒนาการของ “ชุดกี่เพ้า” อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นอกจาก “ชุดกี่เพ้า” จะมีลวดลายสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เครื่องแต่งกายของชาวจีนชุดนี้ ยังทำหน้าที่จดบันทึกวัฒนธรรมของแต่ละยุคสมัยได้อย่างแม่นยำไม่ผิดเพี้ยน
ตำนานของ “ชุดกี่เพ้า” มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ยุคไหน
มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ประมาณปี 1636 โดยเมื่อเกือบ 400 ปีที่แล้ว “ชุดกี่เพ้า” ยังเป็นเครื่องแต่งกายชั้นสูงที่จำกัดวงเฉพาะสตรีในราชสำนักจีนเท่านั้น
นำเทรนด์โดยภริยาของ “ดร.ซุนยัตเซ็น” และเมื่อราชวงศ์ชิงล่มสลาย
ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1920 เป็นยุคที่ชุดกี่เพ้าแพร่หลายอย่างมากในเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยได้รับอิทธิพลจากสไตล์ทางเหนือของชาวปักกิ่ง ยุคนี้สตรีในแวดวงสังคมชั้นสูงได้พัฒนาชุดกี่เพ้าให้ดูทันสมัยขึ้น โดยปรับปรุงรูปทรงให้แนบสรีระและเน้นทรวดทรงของผู้สวมใส่ จากเดิมที่ตัดเย็บเป็นทรงตรงๆไม่มีส่วนโค้งเว้า มีลักษณะเหมือนเสื้อ แต่ชายเสื้อยาวปกคลุมท่อนขาและแขนเสื้อยาวเท่ากันหมด ก็เริ่มวิวัฒนาการเปลี่ยนเป็นชุดเข้ารูปแขนสั้น และด้านข้างมีตะเข็บผ่าสูงเห็นเรียวขา เพื่อให้ก้าวขาได้สะดวกขึ้น
กระทั่งในยุคทศวรรษ 1940 อิทธิพลจากโลกตะวันตกเริ่มแผ่ขยายเข้ามาในเซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ชุดกี่เพ้ายุคนี้ถูกปรับปรุงให้ทันสมัยตามแบบนิยมของฝรั่ง โดยมีการดัดแปลงให้ชายกี่เพ้าสั้นลง และปรับปรุงคอปกไม่ให้ตั้งสูงจนเกินไป ส่วนเนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บก็เป็นผ้าสมัยใหม่ ยุคนี้จะไม่ค่อยนิยมลวดลายและสีสันฉูดฉาดแบบสีแดงหรือสีชมพู แม้แต่แขนเสื้อก็พัฒนาสั้นลงเรื่อยๆไปจนถึงแขนกุด
“ชุดกี่เพ้า” ถูกกวาดล้างไปด้วยไหม ในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของเหมาเจ๋อตุง
ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แผ่นดินจีนเต็มไปด้วยความอดอยากยากแค้น ทำให้ “ชุดกี่เพ้า” ไม่เป็นที่นิยมของชาวจีน ยิ่งมาถึงยุคที่ “เหมาเจ๋อตุง” ปฏิวัติทางวัฒนธรรม “ชุดกี่เพ้า” ก็ถูกนำมาเผาทำลายด้วย เพราะถือเป็นเครื่องหมายของอดีต และความไม่เจริญก้าวหน้า
เกียรติยศศักดิ์ศรีของ “ชุดกี่เพ้า” ได้รับการฟื้นฟูกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อไหร่น่าจะเป็นยุคทศวรรษ 1980 หลังการเปิดประเทศของจีน มีการรื้อฟื้นนำ “ชุดกี่เพ้า” กลับมาสวมใส่อีกครั้ง พร้อมเลื่อนสถานะขึ้นเป็น “ชุดประจำชาติ” โดยมีนครเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางของชุดกี่เพ้า
อะไรคือแรงบันดาลใจให้หันมาอนุรักษ์ “ชุดกี่เพ้า”
การทำงานในยุคแรกๆยากลำบากขนาดไหน
ในฐานะปรมาจารย์ตัวจริง อะไรคืออุปสรรคใหญ่ในการอนุรักษ์ “ชุดกี่เพ้า”
อุปสรรคใหญ่ที่สุดคือ ภูมิปัญญาการทำชุดกี่เพ้าได้สูญหายไปพร้อมกับการล้มหายตายจากของช่างกี่เพ้า คนจีนสมัยก่อนมักไม่ค่อยถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้ลูกหลาน แต่จะเก็บเป็นความลับไว้กับตัว ทำให้งานฝีมือชั้นสูงสูญหายไปกับกาลเวลา จนถึงขณะนี้ มีช่างทำกี่เพ้าระดับยอดฝีมือเหลือเพียง 10 คนเท่านั้นในเซี่ยงไฮ้ แต่ละคนก็อายุมากแล้ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอนุรักษ์ฝีมือเอาไว้ โดยรัฐบาลจีนให้เงินสนับสนุนการอนุรักษ์ชุดกี่เพ้าเพื่อรักษาเป็นมรดกของชาติปีละหลายล้านหยวน และในปีหน้าจะมีการเปิดพิพิธภัณฑ์กี่เพ้าอย่างเป็นทางการในเซี่ยงไฮ้ด้วย
เสน่ห์ของ “ชุดกี่เพ้า” อยู่ตรงไหน
“ชุดกี่เพ้า” แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างกันไป และเป็นชุดที่ทำให้ผู้หญิงสวยงามที่สุด การทำกี่เพ้าถือเป็นศิลปะชั้นสูง ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญ การตัดเสื้อปกติวัดตัวแค่ 3 จุด แต่สำหรับ “ชุดกี่เพ้า” ต้องวัดตัวอย่างละเอียดถึง 36 จุด เพื่อให้รับกับสรีระทุกส่วนของผู้สวมใส่ และแต่ละชุดต้องใช้เวลาตัดเย็บหลายเดือนไปจนถึงเป็นปีๆ
ยุคปัจจุบัน คนจีนนิยมสวมใส่ชุดกี่เพ้ามากน้อยแค่ไหน
คนจีนยุคปัจจุบันจะสวมใส่ชุดกี่เพ้าในโอกาสสำคัญๆของชีวิต รวมถึงในงานแต่งงาน แต่ไม่มีใครใส่ชุดกี่เพ้าเดินตามท้องถนนในชีวิตประจำวัน เพราะนิยมเสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบชาวตะวันตกมากกว่า โดยชุดกี่เพ้าที่ได้รับความนิยมในงานมงคลต่างๆก็ยังคงเป็นชุดกี่เพ้าสีแดงและสีชมพู ส่วนลวดลายต่างๆเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม
ลวดลายของ “ชุดกี่เพ้า” สื่อความหมายแตกต่างกันอย่างไร มีลวดลายต้องห้ามไหม
สมัยราชวงศ์ชิง ถ้าใครใส่กี่เพ้าลวดลายมังกรและหงส์ โดยที่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ ต้องโดนตัดหัว!! แต่ทุกวันนี้ ลวดลายมังกรและหงส์เป็นที่นิยมอย่างมากในงานมงคล เช่นเดียวกับลวดลายดอกบัวและดอกโบตั๋น ซึ่งงดงามอ่อนช้อย และมีความหมายมงคล เพียงแต่มีขนบต้องห้ามอยู่บ้าง เช่น “ห่าน” เป็นสัตว์อัปมงคลตามความเชื่อของชาวจีน จึงไม่นิยมนำมาปักบนชุดกี่เพ้า หรืออย่างลวดลายมังกรจะต้องปักไว้ข้างขวาของชุดกี่เพ้า ขณะที่ลายหงส์ปักไว้ข้างซ้าย เพราะชาวจีนเชื่อว่า ข้างขวาใหญ่กว่าข้างซ้าย ที่สำคัญก็คือ
มังกรจะต้องอยู่สูงกว่าหงส์ ถ้าหงส์อยู่เหนือมังกรเมื่อไหร่ มีปัญหา!!
ทุ่มเทอนุรักษ์ “ชุดกี่เพ้า” มาหลายทศวรรษ อะไรคือยาชูใจทำให้ไม่เหนื่อยไม่ท้อ
สิ่งที่ผมทำอยู่เป็นงานที่มีความหมาย ถ้าไปทำอาชีพอื่น หรือแม้แต่เป็นศิลปินวาดรูป ก็อาจร่ำรวยมีเงินทองมากกว่านี้ แต่การอุทิศชีวิตให้ “ชุดกี่เพ้า” ทำให้ชีวิตมีคุณค่าและมีจุดมุ่งหมาย ปีนี้ผมอายุ 57 ปีแล้ว สิ่งที่ใฝ่ฝันสูงสุดก็คือ อยากให้คนจีนทุกคนภาคภูมิใจและรักในชุดกี่เพ้า และอยากให้นานาชาติยอมรับชุดกี่เพ้า ในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสำคัญของโลก
ทีมข่าวหน้าสตรี โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 ธ.ค. 2555 05:45
หน้าที่เข้าชม | 348,852 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 239,294 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 ต.ค. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |